วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ : ถิงหยาง #8
รัชทายาทของราชาวิลเลียม
เทียนอวี่พยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดของอี้เฟิงแต่อีกฝ่ายกระชับกอดแน่นยิ่งกว่าคีมเหล็กซะอีก
“เจ้าบอกให้ข้าพัก งั้นเจ้าก็อยู่เป็นเพื่อนข้าก่อนสิ มาๆๆ
ข้าเดินทางเหนื่อยมาทั้งวันอยากนอนเต็มแก่แล้ว”
ว่าจบอี้เฟิงก้มช้อนตัวอุ้มเทียนอวี่แล้วเดินตรงไปยังเตียงหลังใหญ่กลางห้อง
เทียนอวี่ที่ตกใจกับการกระทำของอี้เฟิง ได้แต่มองคนที่อุ้มตัวเองอยู่ด้วยความงงงวย
เมื่อเดินมาถึงอี้เฟิงก็ค่อยๆปล่อยเทียนอวี่ลงนอนกับเตียงแล้วตามไปคร่อมร่างเล็กไว้
“ข้ารู้นะ..ว่าท่านน่ะแอบหลงรักองค์ราชา”
สิ่งที่อี้เฟิงพูดทำให้เทียนอวี่ตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดว่าจะมีใครมองออก “ถ้าท่านไม่อยากให้ใครรู้ความลับเรื่องนี้
..”
“ท่านต้องการอะไร!?” เทียนอวี่รีบถามความต้องการของอีกฝ่าย
“หึหึ...ก็แค่
ท่านตอบตกลงเป็นของข้าก็พอ” พูดจบอี้เฟิงก็ก้มลงบดจูบไปยังริมฝีปากเล็กๆนั้นแบบที่คนข้างใต้ไม่ทันได้ตั้งตัว
เสียงจูบดังระงมไปทั่วห้อง จนเทียนอวี่ที่ไม่ประสีประสากับเรื่องแบบนี้ถึงกับตัวอ่อนยวบ
เมื่อเห็นว่าคนร่างบางเริ่มหายใจไม่ทัน อี้เฟิงจึงผละออกมา
“เป็นอันตกลงตามนี้นะขอรับองค์ชายเทียนอวี่” ว่าจบอี้เฟิงก็พลิกตัวลงนอนข้างๆเทียนอวี่
กอดกระชับร่างบางไว้ ก่อนทั้งคู่จะเข้าสู่ห้วงนิทรา
ระหว่างที่จางฮั่นกำลังจะออกไปตาหาองค์รัชทายาทนั้น
จู่ๆทหารในวิ่งหน้าตาตื่นผ่านมา จางฮั่นจึงรั้งตัวไว้สอบถาม
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”
“องค์รักษ์ป๋อหรันได้รับบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อมขอรับ
ข้ากำลังจะไปตามหมอ”
จางฮั่นได้ยินก็แอบกระตุกในใจเบาๆก่อนจะสอบถามว่าตอนนี้คนเจ็บอยู่ที่ใด
“ข้าได้ยินว่าท่านบาดเจ็บ”
จางฮั่นที่เดินเข้าบริเวณลานฝึกเอ่ยถามคนเจ็บ
“ท่านเป็นห่วงข้า...งั้นเหรอ”
ป๋อหรันแอบหัวเราะในลำคอที่เห็นอีกฝ่ายมีท่าทางลนลานกับคำถามของตัวเอง
“ข้า..แค่ผ่านมาทางนี้”
จางฮั่นพูดพลางหลบสายตาอีกฝ่าย
“ผ่านมาก็ผ่านมา งั้นไหนๆก็มาแล้ว
ท่านทำแผลให้ข้าหน่อยสิ” ป๋อหรันแหวกสาบเสื้อข้างซ้ายออกเผยให้เห็นหัวไหล่ขาวที่มีรอยแผลจากดาบเป็นทางยาวประดับอยู่
จางฮั่นชะงักไปจนอีกฝ่ายต้องสะกิดเรียก
“นี่..ท่าน..ท่านจางฮั่น!
ทำแผลให้ข้าเร็วๆสิ”
จางฮั่นที่ได้สติค่อยๆยื่นมือที่สั่นเทาของตัวเองไปทำแผลให้อีกฝ่าย
/ท่าจางฮั่นนี่ใสซื่อจริงเลยนะ..ฮึ/ ป๋อหรั๋นแอบคิดอยู่ในใจ
ในช่วงเย็นหลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย
องค์ราชาวิลเลียมจึงพาหยางหยางมานั่งเล่นยังศาลากลางน้ำที่ด้านล่างเป็นสระบัวหลากสีที่กำลังแข่งกันผลิบาน
“ข้าขอถามได้หรือไม่
ทำไมท่านถึงพาข้ามาที่เมืองของท่าน” หยางหยางหันมาประชันหน้ากับคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“เจ้าก็น่าจะพอรู้อยู่แล้วนะว่าทำไม”
องค์ราชาวิลเลียมใช้ปลายนิ้วค่อยๆไล้แก้มใส
“10ปีมาแล้วสินะ ตอนนี้ข้าคิดว่า..ข้าคงปล่อยเจ้ามานานเกินไปแล้ว”
หยางหยางหันหน้าหนีก่อนจะหันหลังเดินไปเกาะราวกั้นแล้วมองไปยังดอกบัวด้านล่าง
“แล้วท่านไม่คิดจะถามความสมัครใจของข้าบ้างเลยหรือไรกัน”
องค์ราชาวิลเลียมเดินมาช้อนด้านหลังร่างโปร่ง
ก่อนจะค่อยๆสอดแขนกอดเอวสอบ ใช้คางเกยไหล่เล็กไว้
“ข้าน่ะ แทบไม่รู้จักท่านเลยด้วยซ้ำ จู่ๆก็ต้องออกมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง
ท่านคิดว่าข้าควรรู้สึกอย่างไรกัน” องค์ราชาวิลเลียมกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม แล้วกระซิบข้างหูคนคนตรงหน้า
“ข้าขอโทษ” ก่อนจะจุมพิตลงที่ขมับของหยางหยางเป็นการปลอบประโลม “ข้าอาจจะรีบร้อนเกินไป
แต่ข้ารอเจ้ามาตั้ง10ปีแล้วนะ
ข้ารอต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว”
หยางหยางค่อยๆหันมาหาคนด้านหลัง “แล้ว10ปีที่ผ่านมา ท่านหายไปไหนกัน”
“ข้าขอโทษ..งั้นนับตั้งแต่วินาทีนี้
เรามาทำความรู้จักกันใหม่ดีหรือไม่ แต่ข้ามั่นใจอย่างหนึ่งแล้วว่าเจ้าน่ะ...” ร่างสูงของราชาวิลเลียมโน้มตัวลงไปจนหน้าผากและปลายจมูกแนบชิดกับอีกฝ่าย
“เจ้าชอบข้าแล้ว..หึ”
“เห๊อะ!” ได้ยินอย่างนั้นหยางหยางผลักคนตรงหน้า “คนอะไรหลงตัวเองชะมัด
ข้าไม่คุยกับท่านแล้ว!” พูดจบก็เดินหนี
เพราะตอนนี้หยางหยางรู้ตัวเองว่าหน้าของเค้าต้องแดงมากแน่นอน /องค์ราชาบ้า
ร้ายกาจที่สุดเลย/ ถึงในใจจะต่อว่าอีกฝ่ายแต่ตอนนี้ หยางหยางก็ไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย
----------------------------------------TBC-------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น