วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560

วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ : ถิงหยาง #8

วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ : ถิงหยาง #8

รัชทายาทของราชาวิลเลียม










เทียนอวี่พยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดของอี้เฟิงแต่อีกฝ่ายกระชับกอดแน่นยิ่งกว่าคีมเหล็กซะอีก “เจ้าบอกให้ข้าพัก งั้นเจ้าก็อยู่เป็นเพื่อนข้าก่อนสิ มาๆๆ ข้าเดินทางเหนื่อยมาทั้งวันอยากนอนเต็มแก่แล้ว”

ว่าจบอี้เฟิงก้มช้อนตัวอุ้มเทียนอวี่แล้วเดินตรงไปยังเตียงหลังใหญ่กลางห้อง เทียนอวี่ที่ตกใจกับการกระทำของอี้เฟิง ได้แต่มองคนที่อุ้มตัวเองอยู่ด้วยความงงงวย เมื่อเดินมาถึงอี้เฟิงก็ค่อยๆปล่อยเทียนอวี่ลงนอนกับเตียงแล้วตามไปคร่อมร่างเล็กไว้ “ข้ารู้นะ..ว่าท่านน่ะแอบหลงรักองค์ราชา” สิ่งที่อี้เฟิงพูดทำให้เทียนอวี่ตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดว่าจะมีใครมองออก “ถ้าท่านไม่อยากให้ใครรู้ความลับเรื่องนี้ ..”

“ท่านต้องการอะไร!?” เทียนอวี่รีบถามความต้องการของอีกฝ่าย

“หึหึ...ก็แค่ ท่านตอบตกลงเป็นของข้าก็พอ” พูดจบอี้เฟิงก็ก้มลงบดจูบไปยังริมฝีปากเล็กๆนั้นแบบที่คนข้างใต้ไม่ทันได้ตั้งตัว เสียงจูบดังระงมไปทั่วห้อง จนเทียนอวี่ที่ไม่ประสีประสากับเรื่องแบบนี้ถึงกับตัวอ่อนยวบ เมื่อเห็นว่าคนร่างบางเริ่มหายใจไม่ทัน  อี้เฟิงจึงผละออกมา “เป็นอันตกลงตามนี้นะขอรับองค์ชายเทียนอวี่” ว่าจบอี้เฟิงก็พลิกตัวลงนอนข้างๆเทียนอวี่ กอดกระชับร่างบางไว้ ก่อนทั้งคู่จะเข้าสู่ห้วงนิทรา




ระหว่างที่จางฮั่นกำลังจะออกไปตาหาองค์รัชทายาทนั้น จู่ๆทหารในวิ่งหน้าตาตื่นผ่านมา จางฮั่นจึงรั้งตัวไว้สอบถาม “เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”

“องค์รักษ์ป๋อหรันได้รับบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อมขอรับ ข้ากำลังจะไปตามหมอ”

จางฮั่นได้ยินก็แอบกระตุกในใจเบาๆก่อนจะสอบถามว่าตอนนี้คนเจ็บอยู่ที่ใด

“ข้าได้ยินว่าท่านบาดเจ็บ” จางฮั่นที่เดินเข้าบริเวณลานฝึกเอ่ยถามคนเจ็บ

“ท่านเป็นห่วงข้า...งั้นเหรอ” ป๋อหรันแอบหัวเราะในลำคอที่เห็นอีกฝ่ายมีท่าทางลนลานกับคำถามของตัวเอง

“ข้า..แค่ผ่านมาทางนี้” จางฮั่นพูดพลางหลบสายตาอีกฝ่าย

“ผ่านมาก็ผ่านมา งั้นไหนๆก็มาแล้ว ท่านทำแผลให้ข้าหน่อยสิ” ป๋อหรันแหวกสาบเสื้อข้างซ้ายออกเผยให้เห็นหัวไหล่ขาวที่มีรอยแผลจากดาบเป็นทางยาวประดับอยู่
จางฮั่นชะงักไปจนอีกฝ่ายต้องสะกิดเรียก “นี่..ท่าน..ท่านจางฮั่น! ทำแผลให้ข้าเร็วๆสิ”
จางฮั่นที่ได้สติค่อยๆยื่นมือที่สั่นเทาของตัวเองไปทำแผลให้อีกฝ่าย /ท่าจางฮั่นนี่ใสซื่อจริงเลยนะ..ฮึ/ ป๋อหรั๋นแอบคิดอยู่ในใจ





ในช่วงเย็นหลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย องค์ราชาวิลเลียมจึงพาหยางหยางมานั่งเล่นยังศาลากลางน้ำที่ด้านล่างเป็นสระบัวหลากสีที่กำลังแข่งกันผลิบาน
“ข้าขอถามได้หรือไม่ ทำไมท่านถึงพาข้ามาที่เมืองของท่าน” หยางหยางหันมาประชันหน้ากับคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“เจ้าก็น่าจะพอรู้อยู่แล้วนะว่าทำไม” องค์ราชาวิลเลียมใช้ปลายนิ้วค่อยๆไล้แก้มใส

10ปีมาแล้วสินะ ตอนนี้ข้าคิดว่า..ข้าคงปล่อยเจ้ามานานเกินไปแล้ว”

หยางหยางหันหน้าหนีก่อนจะหันหลังเดินไปเกาะราวกั้นแล้วมองไปยังดอกบัวด้านล่าง 

“แล้วท่านไม่คิดจะถามความสมัครใจของข้าบ้างเลยหรือไรกัน”

องค์ราชาวิลเลียมเดินมาช้อนด้านหลังร่างโปร่ง ก่อนจะค่อยๆสอดแขนกอดเอวสอบ ใช้คางเกยไหล่เล็กไว้

“ข้าน่ะ แทบไม่รู้จักท่านเลยด้วยซ้ำ จู่ๆก็ต้องออกมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ท่านคิดว่าข้าควรรู้สึกอย่างไรกัน” องค์ราชาวิลเลียมกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม แล้วกระซิบข้างหูคนคนตรงหน้า “ข้าขอโทษ” ก่อนจะจุมพิตลงที่ขมับของหยางหยางเป็นการปลอบประโลม “ข้าอาจจะรีบร้อนเกินไป แต่ข้ารอเจ้ามาตั้ง10ปีแล้วนะ ข้ารอต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว”

หยางหยางค่อยๆหันมาหาคนด้านหลัง “แล้ว10ปีที่ผ่านมา ท่านหายไปไหนกัน”

“ข้าขอโทษ..งั้นนับตั้งแต่วินาทีนี้ เรามาทำความรู้จักกันใหม่ดีหรือไม่ แต่ข้ามั่นใจอย่างหนึ่งแล้วว่าเจ้าน่ะ...” ร่างสูงของราชาวิลเลียมโน้มตัวลงไปจนหน้าผากและปลายจมูกแนบชิดกับอีกฝ่าย “เจ้าชอบข้าแล้ว..หึ”


“เห๊อะ!” ได้ยินอย่างนั้นหยางหยางผลักคนตรงหน้า “คนอะไรหลงตัวเองชะมัด ข้าไม่คุยกับท่านแล้ว!” พูดจบก็เดินหนี เพราะตอนนี้หยางหยางรู้ตัวเองว่าหน้าของเค้าต้องแดงมากแน่นอน /องค์ราชาบ้า ร้ายกาจที่สุดเลย/ ถึงในใจจะต่อว่าอีกฝ่ายแต่ตอนนี้ หยางหยางก็ไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย




----------------------------------------TBC-------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น