วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ : ถิงหยาง #2



อ่าน >> ตอนที่ 1 ตรงนี้ค่ะ :))


วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ : ถิงหยาง #2

รัชทายาทของราชาวิลเลียม










“ครั้งนี้พระราชาวิลเลียมไปต่างเมืองด้วยเรื่องอันใดกันหรือแม่นม” ร่างเล็กที่นั่งอยู่ภายในศาลากลางสระบัวเอ่ยถาม

“เห็นว่าทางเมืองนั้นขอความช่วยเหลือเรื่องถูกรุกรานแผ่นดินหน่ะเพคะ องค์ชาย”
แม่นมตอบ พลางวางของว่างและรินน้ำชาให้องค์ชายเทียนอวี่ ผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายต่างมารดาของพระราชาวิลเลียม
“แล้วพระราชาท่านได้รับสั่งไว้หรือไม่ว่าจะไปนานเท่าไหร่”
“ไม่ได้รับสั่งไว้เพคะ”
“งั้นหรือ...” องค์ชายเทียนอวี่แอบหวั่นวิตกในใจว่าการเจรจาครั้งนี้อาจเป็นอย่างที่ทรงคิดไว้ เพราะโดยปกติการสานสัมพัน์ธ์สองเมืองมักลงเอยด้วยการแต่งงานซะมากกว่า
และในความเป็นจริงแล้วใครเลยจะรู้ ว่าองค์ชายเทียนอวี่นั้น ทรงแอบหลงรักพระราชาวิลเลียมมาตั้งแต่เด็กๆ พี่ชายแสนใจดี อบอุ่น คอยช่วยเหลือและดูแลเขามาตลอด
ถ้าหากพระราชาต้องสานสัมพันธ์โดยการแต่งงานจริงๆ แล้วเขาจะทำเช่นไรกัน

          “องค์ราชาแน่ใจจริงๆแล้วหรือเรื่องรัชทายาทหยางหยาง” ท่านอำมาตย์ถามขึ้นหลังจากออกจากห้องอาหาร
“แล้วทำไมข้าถึงต้องไม่แน่ใจด้วยละท่านอำมาตย์”
“หม่อมฉันว่า...”
“ไม่ว่าอันใดทั้งนั้นแหละท่าน ข้าตัดสินใจดีแล้ว และข้าจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ” ยังไม่ทันที่ท่านอำมาตย์จะเอ่ยจบองค์ราชายก็ทรงเอ่ยขัดเสียก่อน “ส่งข่าวกลับไปที่เมืองด้วยว่าข้าคงต้องอยู่ที่นี้อีกหลายวัน”
         
          “จางฮั่น ท่านพอทราบเกี่ยวกับพระราชาวิลเลียมบ้างหรือไม่” หลังจากกลับมาถึงยังห้องของตัวเององค์รัชทายาทก็ทรงเอ่ยถามองค์รักษ์คนสนิท
“ท่านได้ขึ้นครองบัลลังค์แทนราชาองค์ก่อนตั้งแต่อายุยังน้อยขอรับ เป็นคนที่เชี่ยวชาญทั้งทางด้านการเมืองการปกครองรวมถึงการรบด้วยขอรับ” จางฮั่นตอบตามที่ได้ยินมา
“แล้วท่านทราบเรื่องของตกลงของพระราชาวิลเลียมกับเสด็จพ่อหรือไม่” นี่เป็นหนึ่งเรื่องที่ยังคงคาใจองค์รัชทายาทตั้งแต่ได้ยินที่ห้องอาหาร
“ไม่ทราบเลยขอรับ” กล่าวเสร็จจางฮั่นก็ทูลลาออกไปปฏิบัติหน้าที่อื่นต่อ

          “อ๊ะ..” ระหว่างที่องค์รัชทายาทกำลังเดินเล่นมสวนอยู่นั้น ไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับร่างโปร่งตรงหน้า และด้วยความไวของร่างโปร่งจึงสามารถคว้าเอวของคนที่ชนตัวเองไว้ได้ก่อนอีกฝ่ายจะล้มลงไปที่พื้น
“ฮึ..ซุ่มซ่าม” คนถูกคว้าเอวไว้ยังคงหลับตาสนิท จนได้ยินคำพูดที่ไม่รื่นหูเลยสักนิด
“เราไม่ได้ซุ่มซ่าม! ท่านต่างหากที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ เราก็เดินของเราแบบนี้ทุกวัน”
ด้วยความโมโหจนลืมไปว่าคนตรงหน้าคือพระราชาที่ตัวเองบอกว่าน่ากลัว
“ช่างพูดจริงๆด้วยสินะ” ประโยคที่ทำให้องค์รัชทายาทรู้สึกตัว จึงรีบขืนตัวออกจากอ้อมแขนอีกฝ่าย แต่พระราชากลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ!” แรงเด็กหรือจะสู้แรงผู้ใหญ่ จึงทำได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่แบบนั้น
“ท่านก็หยุดดิ้นก่อนสิ เราจะได้มาคุยกันดีๆ...สักที” พระราชาพูด พลางโน้มใบหน้าลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกันกับองค์ชาย ก่อนจะส่งยิ้มที่บันดาลโทสะขององ์ชายมากกว่าเดิม
“ระ..เรา..เราไม่มีอะไรจะคุยกับท่าน แล้วก็ปล่อยเราสักที” จู่ๆองค์รัชทายาทก็รู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้าของตัวเอง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเพราะความโกรธหรือเพราะอย่างอื่นกันแน่
“แต่ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่านอีกเยอะเลยละ เพราะยังไงท่านก็เลี่ยงข้าไม่พ้น” องค์ราชารับสั่งก่อนจะโน้มไปกระซิบที่ข้างหูองค์รัชทายาท “ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน” ลมหายใจที่เป่ารดอยู่ข้างหูทำไมองค์รัชทายาทหยุดนิ่งไม่กล้าขยับตัว
และด้วยกลิ่นหอมที่โชยมาจากองค์รัชทายาททำให้พระราชาวิลเลียมอดใจไว้ไม่อยู่ ขบเม้มติ่งหูขององค์รัชทายาท..ทั้งที่บอกกับตัวเองแล้วว่าจะไม่ใจร้อนให้ลูกแกะต้องแตกตื่นตกใจ แต่คนตรงหน้าทั้งหอมทั้งหวานขนาดนี้มีหรือเขาจะอดใจไหว

“อะ..อื้อออ  ทะ...ท่านจะทำ อื้ออออ ปล่อยยยย” ความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนทำให้องค์รัชทายาทรู้สึกทำตัวไม่ถูก ใจอยากจะขัดขืนแต่ทำไมร่างกายถึงไม่เชื่อฟังคำสั่งเลยสักนิด


-------------------------------------TBC---------------------------------------------------

ติดตามตอนต่อไปได้ที่คุณนะโอนะฮับ :))

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น