วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ : ถิงหยาง #5
“ฮืออออ
อี้เฟิงงงงงง” รัชทายาทหยางหยางที่เห็นเพื่อนโมโหยกใหญ่ รีบวิ่งไปกอดเอวไว้แน่น
เพราะรู้ว่าเพื่อนคนนี้แพ้ลูกอ้อนของเค้าอยู่แล้ว ส่วนองค์รักษ์ทั้งสองเมื่อเห็นเจ้านายปลอดภัยดีแล้วจึงแยกย้ายกันไป
“หายไปไหนมา เราเป็นห่วงเจ้าแทบแย่”
อี้เฟิงไม่ได้โกรธเคืองอะไร แค่เป็นห่วงเพื่อนตัวน้อยเท่านั้น “แล้วใครกันที่พาเจ้ากลับวัง”
“พระราชาวิลเลียมหน่ะ”
หยางหยางตอบพลางหลบสายตาเพื่อนสนิท
“อ่อออ
คนที่เจ้าเคยบอกว่าน่ากลัวหน่ะเหรอ....ว่าแต่ ...แค่พูดชื่อเค้าทำไมเจ้าต้องหน้าแดงด้วยละ
ห๊ะ!”
อี้เฟิงที่มีนิสัยช่างแกล้งช่างหยอกอยู่แล้วรีบเอ่ยแซวเพื่อนยกใหญ่
“ปะ เปล่า..เปล่านะ คะ แค่ เออออ ..
แค่ข้ารีบวิ่งมาก็เลยร้อน” หยางหยางรีบก้มหน้าเพื่อปกปิดความเขินอายนี้
ทั้งจากการนึกถึงเรื่องในตลาดทั้งที่โดนเพื่อนสนิทเอ่ยแซว
“แต่ข้าว่าเจ้าหน้าแดงเพราะพระราชาจากต่างเมืองมากกว่ากระมัง..มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกข้าใช่ไหม!?” ยิ่งเหมือนเพื่อนตัวน้อยท่าทางเขินอายอี้เฟิงก็ยิ่งอยากรู้
“มะ..ไม่มีๆๆๆ”
อี้เฟิงหรี่ตามองอย่างไม่เชื่อคำพูด “อือออ ถ้าเจ้าไม่บอก
เราไปถามองค์ราชาเองก็ได้” อี้เฟิงเตรียมตัวหันหลังออกไปจากห้อง
ถูกเพื่อคว้าแขนไว้ซะก่อน
“ไม่ได้นะ!” หยางหยางรีบโพล่งขึ้น
“ถ้างั้นเจ้าก็บอกเรามาสิ ว่าไง..”
แต่องค์รัชทายาทก็ได้แต่ยืนจับแขนเพื่อนไว้ไม่ตอบอันใด “ไม่บอกใช่ไหม...ได้เลยยยย
นี่แหนะๆๆๆ” อี้เฟิงเห็นเพื่อนมัวแต่เขินอายจึงจี้เอวองค์ชาย จนคนโดนจี้ได้แต่หัวเราเอิ๊กอ๊ากยกใหญ่ลงไปนอนดิ้นอยู่กับพื้น
แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่หยุด ตามมาคร่อมร่างน้อยไว้
“พวกเจ้าทำอะไรกันหน่ะ!!!!” ในขณะที่เพื่อนทั้งสองกำลังหยอกล้อกันอยู่
ก็มีเสียงตะโกนมาจากหน้าประตู คนในห้องรีบหยุดแล้วหันไปดู
หยางหยางรู้ดีว่าคนตรงหน้าเป็นใคร แต่อี้เฟิงไม่คุ้นหน้าผู้ชายคนนี้เสียเลย
“พระราชาวิลเลียม”
องค์รัชทายาทเอ่ยชื่อออกมาราวกับเสียงกระซิบแต่อี้เฟิงที่อยู่ใกล้ได้ยินชัดเจน
“อ่าาาา คนนี้สินะ...หึหึ”
อี้เฟิงหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพื่อนสนิทก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ข้าองค์ชายอี้เฟิง ถวายบังคมพระราชาวิลเลียม”
อี้เฟิงโค้งคำนับถวายความเคารพ “องค์รัชทายาทกำลังจะไปหาท่านอยู่พอดี
ไหนๆท่านก็มาแล้ว งั้นข้าขอตัว” พูดจบก็หันไปขยิบตาให้เพื่อนแล้วรีบออกจากห้องไป
เมื่อลับสายตาอีกคน
องค์ราชาจึงปิดประตูแล้วค่อยๆย่างเท้าเข้าหาลูกแกะที่ยืนก้มหน้าตัวสั่นน้อยๆอยู่กลางห้อง
“ข้าบอกเจ้าแล้วเด็กน้อย ว่ายังไงซะ
เจ้าก็หลบเลี่ยงข้าไม่พ้นหรอก” พระราชาที่ก้าวมาถึงตัวองค์ชายมือซ้ายก็คว้าหมับเข้าที่เอวคอดนั้นทันทีพลางใช้มืออีกข้างเชยคางให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตา
“ทะ..ท่านต้องการสิ่งใดจากข้ากันแน่”
ดวงตาใสๆมีน้ำเอ่อคลอเบาๆ
“ที่ข้ามาที่นี้ ก็มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ข้าต้องการ.......คือเจ้าไงละ”
พูดจบพระราชาก็โน้มหน้าลงจุมพิตองค์ชายทันที มือที่เชยคางเปลี่ยนไปบีบแก้มน้อยๆให้อีกฝ่ายเผยอปาก
ก่อนเรียวลิ้นร้อนจะเข้าไปสำรวจความหวาน
“อะ...อืออออ ทะ ท่าน.. อือออ ข้า
ข้า อ่าาาา” ไม่ปล่อยให้องค์ชายน้อยได้พูดอันใดอีก พระราชาวิลเลียมเอื้อมมือช้อนสะโพกยกตัวอีกฝ่ายขึ้นมา
ด้วยความตกใจองค์ชายรีบกอดคอพระราชาไว้แน่นตะหวัดขาเกี่ยวเอวสอบไว้ ทั้งที่ยังไม่ละริมฝีปากออกจากกัน
“อืมมมมม...เจ้ายังหวานเหมือนเดิมเลยนะ”
จูบที่แสนดูดดื่มยังคงดำเนินต่อไป พระราชาค่อยๆเดินไปยังโต๊ะกลางห้องวางร่างน้อยๆให้แนบไปกับโต๊ะ
ส่วนตัวเองรีบตามลงไปจูบริมฝีปากหวานๆนั้นอีก
“ทะ ท่าน อืออออ ยะ อย่านะ อ๊ะะะะ” มือใหญ่ลูบไล้บีบเค้นไปตามลำตัวนุ่มนิ่ม
ก่อนจะแหวกสาบเสื้อของคนใต้ร่างจนเผยให้เห็นหน้าอกและหัวไหล่ขาวเนียน
พระราชาค่อยๆไล้ริมฝีปากต่ำลงมาตั้งแต่ลำคอ หัวไล่จนถึงหน้าอก
ลิ้นสากลากผ่านตุ่มไตสีสวย ก่อนจะงับเบาๆ “อ่าาาาาา อืออออ มะ ไม่ ไม่นะ โอยยย”
มือบางออกแรงผลักคนด้านบนแต่ก็ไม่เป็นผล
ได้แต่บีบไหล่แกร่งระบายอารมณ์ที่เกิดจากทีอีกคนปรเปรอให้
“หึ...คำพูดกับร่างกายเจ้าช่างไม่ตรงกันซะเลยนะ
แกะน้อย” องค์ราชาละริมฝีปากเงยหน้าสบตาลูกแกะน้อยในอ้อมกอด
ใช้นิ้วเกลี่ยไล้แก้มขาวเนียนอย่างทะนุถนอม
“องค์รัชทายาท
ฝ่าบาทมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าพะยะค่ะ” เสียงดังหน้าประตูเรียกทั้งคู่ให้ออกจากภวังค์
องค์รัชทายาทรีบผลักอีกฝ่ายออก ก่อนจะลนลานใส่เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย
-----------------------------------TBC----------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น