“REMAIN”
CHEN WEITING x YANGYANG
P.S.เหว่ยถิงเกออายุ 40+ / น้องเสี่ยวหยางวัย18ขวบ
P.S.เหว่ยถิงเกออายุ 40+ / น้องเสี่ยวหยางวัย18ขวบ
วันนี้ผมทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ “โจ๊กเห็ดหอม” ขอโปรดของบุคคลที่ผมอาศัยอยู่ด้วยในบ้านหลังนี้
“คุณถิงทานโจ๊กก่อนไหมครับ” ผมเอ่ยถามคนที่เดินผ่านโต๊ะอาหารอย่างเร่งรีบ
“ไม่ละ วันนี้ฉันมีประชุม” เค้าตอบคำถามโดยไม่หันมองแล้วเปิดประตูออกไปทันที
ความรู้สึกอึดอัดนี้มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ...
หรือมันจะเริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนนั้น วันที่ผมตัดสินทำในสิ่งที่ใจผมปราถนา
“ผมชอบเหว่ยถิงเกอนะครับ”
วันนี้ผมคิดแล้วว่าต้องบอกสิ่งที่ติดอยู่ในใจผมมาเนิ่นนานสักที
“........” เค้าไม่พูดอะไรกลับมา
ทำเพียงแค่หันหลังแล้วเดินออกไป นั้นคือสิ่งที่ผมได้กลับคืนมา
หลังจากวันนี้ผมกับเค้าก็แทบจะไม่ได้พูดคุยกันอีก
และทั้งๆที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกันแท้ๆ ผมก็แทบจะไม่ได้เจอหน้าของเค้าเลยด้วยซ้ำ
เค้ามักออกไปก่อนผมจะตื่นและมักจะกลับเข้ามาหลังจากผมหลับไปแล้ว...
ในช่วงเวลากลางดึก
จู่ๆด้านนอกก็เกิดเสียงดังขึ้นจนทำให้ผมต้องตื่น ผมค่อยๆก้าวออกจากห้อง
แสงไฟจากในห้องทำให้ผมเห็นเค้า
ท่าทางคงจะดื่มมาหนักถึงได้ล้มพับนอนอยู่กลางห้องรับแขกแบบนี้
“คุณถิง คุณถิงครับ ...
ลุกขึ้นไปนอนที่ห้องเถอะครับ”
ผมพยายามจะประคองร่างของคนที่เมาไม่ได้สติกลับไปยังห้องของเค้า
“อือออ ไม่ต้องมายุ่ง!” แต่เค้ากลับผลักผมออกจนผมถลาไปชนโซฟาด้านหลัง
ในที่สุดผมก็พาคนร่างคนเมากลับมาที่ห้องได้สำเร็จ
ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำหยิบผ้าขนหนูกับกะละมังที่รองน้ำจนเต็ม
แล้วเดินมานั่งที่ข้างเตียง ผมค่อยๆใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดไปตามใบหน้าของคนบนเตียง
ผมค่อยๆพิจรณาใบหน้าของเค้า ... นี่ผมรักคนๆนี้มานานเท่าไหร่แล้ว
มันถึงเวลาหรือยังที่ผมต้องหยุด เพราะตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมหมดแรงที่จะเดินต่อไปแล้ว
ผมค่อยๆเก็บของ เริ่มจากเสื้อผ้า หนังสือ
และของใช้อีกนิดหน่อยลงในกล่อง ผมมองไปรอบๆห้องที่ผมเคยใช้เวลาอยู่มาชั่วระยะเวลาหนึ่ง...
“จะไปไหน!?”
ผมเลือกช่วงเวลาออกจากบ้านให้ตรงกลับช่วงที่เค้าไม่อยู่
แต่เหมือนวันนี้โชคชะตาจะไม่เข้าข้างผม ถึงทำให้เค้ากลับมาเจอ
“ผม...จะย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแล้วละครับ”
ในจังหวะที่ผมกำลังก้าวผ่านเค้ากลับใช้แขนแกร่งรั้งตัวผมไว้
เค้าสวมกอดเอวผมแล้วดึงให้แผ่นหลังของผมแนบชิดอก
ใช้คางเกยไหล่แล้วกระซิบเบาๆที่ข้างหูของผม “อย่าไป”
“ทำไมละครับ” ผมเกิดความไม่เข้าใจ
..จริงๆแล้วต้องบอกว่าผมไม่เคยเข้าใจผู้ชายคนนี้เลยมากกว่า
“ในเมื่อคุณถิง...อึก...ก็ไม่อยากให้ผมอยู่ที่นี่”
ผมถามพูดประโยคนั้นด้วยเสียงสั่นเทาปนสะอื้น
“ใครบอกว่าฉันไม่อยากให้นายอยู่ที่นี่”
เค้าค่อยๆดันตัวผมให้หันไปเผชิญหน้า
ผมในเวลานี้เห็นแต่ความพร่ามัวเพราะถูกบดบังไปด้วยน้ำตา
“ตั้งแต่วันนั้น.......คุณถิงก็คอยแต่จะ..อึก..หลบหน้าผม
บะ..บางที..อึก.การอยู่ที่นี่ของผม คงทำให้คุณถิงลำบากใจ” ในเมื่อผมตัดสินใจแล้วว่าในวันนี้
เรื่องทุกอย่างควรจบลงตรงนี้
“ถ้าในเมื่อคุณถิงไม่รัก ก็ปล่อยผมไปเถอะนะครับ”
“นาย...ไม่เคยทำให้ฉันลำบากใจ........อย่าไปเลย......ได้โปรด”
ผมทำได้เพียงจ้องมองดวงตาคู่นั้น
ผมบอกไม่ได้เหมือนกันว่าคำอ้อนวอนของเค้าเป็นเรื่องจริงสักแค่ไหน ใบหน้าของเค้าค่อยๆลดระยะห่างจนริมฝีปากคู่นั้นประทับลงมาในตำแหน่งเดียวกันบนใบหน้าของผม
มันไม่ใช่จูบแรก แต่มันเป็นจูบที่ทำให้ผมสับสนจนต้องร้องไห้ออกมาอีก
ฝ่ามือร้อนค่อยๆสอดเข้ามา สัมผัสไปทั่วร่างกายของผม
ผมทำได้แค่เพียงบีบมือลงบนไหล่แกร่งนั้น จูบบางๆเปลี่ยนไปหนักหน่วงตามแรงอารมณ์ของคนด้านบน
ริมปากค่อยๆเคลื่อนต่ำลง
จนถึงตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าของเราทั้งคู่แนบชิดกันจนไม่เหลือช่องว่าง
ความร้อนจากตัวเค้าที่เข้ามาทำให้หัวสมองของผมขาวโพลนไปหมด
“อ๊ะ....อืออออ คะ คุณ คุณถิง” ผมระบายความเจ็บปวดแต่สุขสมนี้ด้วยการจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม
“เรียกชื่อสิ อืมมมม.. เรียก
แบบที่เสี่ยวหยางชอบเรียกไง”
ผมสอดประสานสายตากับบุคคลที่ความคุมจังหวะอยู่ในขณะนี้ “เวอ..เหว่ย อื้อออ
เหว่ยถิง..เกอ”
“อื้มมมม เสี่ยวหยาง” ทำได้เพียงเรียกชื่อเท่านั้น
ก่อนคนด้านบนจะจูบลงที่แก้มของผม
จากนั้นอารมณ์ของเค้าก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้งและอีกครั้ง...
ผมลืมตาตื่นขึ้นมา
รับรู้ได้ว่าเป็นเวลาล่วงเข้าวันใหม่แล้ว
แรงกระชับกอดจากคนข้างๆทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง
“คุณถิง” ผมเรียกชื่อเค้าด้วยเสียงแผ่วเบา
“เรียกใหม่สิ ต่อไปนี้ ที่นี่ จะไม่มีคุณถิงอีกแล้ว”
“เหว่ยถิง..เกอ”
คนที่โอบกอดผมไว้โน้มตัวลงมาจุมพิตที่หน้าผากของผม
“ทำไม...??” ผู้ชายคนนี้มักจะไม่พูดหรือแสดงออกมากนัก
“วันที่เสี่ยวหยางสารภาพรัก รู้ไหม ว่าเกอต้องหักห้ามใจตัวเองมากแค่ไหน”
ผมยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าพูด
“เสี่ยวหยางเป็นคนที่เกอไม่อยากจะทำให้ต้องแปดเปื้อน..เกอไม่อยากทำให้เด็กน้อยแสนบริสุทธิ์ของเกอต้องหายไป
เกอกลัวว่าเสี่ยวหยางจะหายไปจากเกอ”
เค้ากระชับกอดผมแน่นเหมือนว่ากลัวผมจะหายไปอย่างที่เค้าพูดจริงๆ
“แล้วเหว่ยถิงเกอ...ไม่คิดเหรอครับ
ถ้าผมต้องแปดเปื้อนเพราะเกอจริงๆ นั้นก็เป็นเพราะความต้องการของผมเอง ผมเต็มใจ
ถ้าคนๆนั้นจะเป็นเหว่ยถิงเกอ” ผมจ้องมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น
“เสี่ยวหยางรักเหว่ยถิงเกอนะครับ”
ผมค่อยๆขยับยืดตัวขึ้น สายตาของเรายังคงสอดประสานกันอย่างไม่ลดละ
ผมค่อยๆประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากหนานั้นสักพักใหญ่ก่อนจะผละออก
เค้าค่อยๆยกมือซ้ายมาประคองใบหน้าผม ค่อยๆใช้นิ้วโป้งลูบไล้ที่แก้มผมเบาๆ
ก่อนจะโน้มลงมากระชิบที่ข้างๆหูของผมด้วยประโยคที่ทำให้ผมรู้สึกใจเต้นแรงอีกครั้ง
“เหว่ยถิงเกอรักเสี่ยวหยาง”
-----------------------------END-----------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น